ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการโรคทางสมอง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยนิยมรับประทานอาหารเสริม วิตามินต่างๆ
โดยพบว่าวิตามิน
อาหารเสริมหลายชนิดไม่มีการยืนยันถึงประสิทธิผลตรงตามการโฆษณา โดยพบว่า
วารสารทางการแพทย์ชั้นนำ เนเจอร์ ของสหรัฐอเมริกา มีการรายงานการค้นพบใหม่
เรื่อง สารประกอบแอล-คาร์นิทีน (L-carnitine)
ซึ่งปัจจุบันพบว่าอนุญาตให้เป็นอาหารเสริมและโฆษณาว่าทำให้หุ่นกระชับ ผอม
เพิ่มการเผาผลาญ เป็นต้น โดยสารแอล-คาร์นิทีน
ตามธรรมชาติจะอยู่ในเนื้อสัตว์ เนื้อแดง ถั่ว เป็นต้น
แต่จากรายงานของวารสารดังกล่าว พบว่า สารแอล-คาร์นิทีน และโคลีน จะเปลี่ยนจุลินทรีย์ในลำไส้ เป็นสารพิษชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวเร่งทำให้เกิดเส้นเลือดอุดตันได้
"หากรับประทานเนื้อสัตว์ แล้วทานแอล-คาร์นิทีน เสริมเข้าไป
จะเปลี่ยนจุลินทรีย์ในลำไส้ เป็นสารพิษชนิดหนึ่ง
ซึ่งมีผลต่อเส้นเลือดสมองและหัวใจ แต่หากกินมังสวิรัติ พบว่า
จุลินทรีย์ในลำไส้จะไม่เปลี่ยนแอล-คาร์นิทีนเป็นสารพิษ
เนื่องจากจุลินทรีย์ในกลุ่มคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์จะเป็นคนละชนิดกัน
ยังมีงานวิจัยที่พบว่า การได้รับแอล-คาร์นิทีน
ในกลุ่มคนไข้ที่มีอาการเส้นเลือดหัวใจ สมอง ตีบตันอยู่แล้ว
อาจช่วยให้อาการเจ็บแน่นหน้าอกจากเส้นเลือดหัวใจตีบมีอาการน้อยลงบ้าง" ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าว
ศ.นพ.ธีระวัฒน์กล่าวว่า
หลายประเทศกำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าวเนื่องจากมีการอนุญาตให้สารแอล-คาร์นิ
ทีน เป็นอาหารเสริมในผลิตภัณฑ์หลายประเภท โดยในการบริโภคอาหารประจำวันจะได้
แอล-คาร์นิทีน 20-200 ม.ก. แต่คนที่กินมังสวิรัติจะเหลือเพียง 1
ม.ก.ต่อวัน แต่ในอาหารเสริม 1 เม็ดอาจมีมากกว่า 500 ม.ก.
ทำให้ร่างกายได้รับมากเกินไป ปัจจุบันไทยมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจำนวนมาก
การควบคุมโฆษณาจึงควรมีการกำกับ ไม่ให้เกิดการโฆษณาเกินจริงมากจนเกินไป
No comments :
Post a Comment