Thursday, September 20, 2012

Thai fight



ไทยไฟต์ (อังกฤษ: THAI FIGHT) เป็นทัวร์นาเมนท์มวยไทยระดับโลกที่เริ่มจัดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2553 ซึ่งมีนักมวยไทยที่ได้รับการคัดเลือกจากนานาประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน[2] โดยนักมวยไทยรายสำคัญที่มีโอกาสร่วมแข่งขันรายการดังกล่าว เป็นนักมวยไทยที่ผ่านรอบการคัดเลือกจากการแข่งขันในรอบก่อนหน้า อาทิ ฟาบิโอ ปินก้า, โค จองยุน, อับราฮัม โรเกนี, วูยิซิเล โคลอสซา รวมถึง บัวขาว ป.ประมุข, ยอดแสนไกล แฟร์เท็กซ์, ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง, สุดสาคร ส.กลิ่นมี[3] รวมไปจนถึงนักมวยไทยที่ได้รับการคัดเลือกจากการเป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันมวยรอบอีซูซุอย่าง เพชรมั่นคง เพชรฟอร์กัส, เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง และ สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์

ประวัติ
ในช่วงที่กระแสความนิยมของมวยไทยได้เริ่มแผ่ขยายไปทั่วโลก ทางรัฐบาลได้มีการสนับสนุนในการที่ผลักดันกีฬาประจำชาติสู่ระดับสากล โดยได้มีการยกระดับสู่การจัดรายการแข่งขันระดับโลก การแข่งขันรายการนี้เริ่มขึ้นครั้งแรกใน พ.ศ. 2553  ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 จังหวัดนครราชสีมา โดยมี ฟาบิโอ ปินก้า ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวฝรั่งเศส เป็นผู้ชนะคะแนนนักสู้ชาวไทยและถือเป็นแชมป์คนแรกของรายการ โดยมีการถ่ายทอดสดทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3  ซึ่งผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับเงินรางวัล 2 ล้านบาท รวมถึงรถกระบะอีซูซุ 1 คันเป็นรางวัล

พ.ศ. 2554 ได้มีแผนการจัดการแข่งขันขึ้นในหลายประเทศในแบบเอ็กซ์ตรีม[2][12] ทั้ง เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส, เขตการปกครองพิเศษฮ่องกง รวมถึงกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และในเดือนกันยายนของปีเดียวกันนี้ ได้จัดการแข่งขันที่ประเทศไทยอีกครั้งที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ปทุมธานี[13] โดยมีการชิงแชมป์ใน 2 รุ่น ซึ่งได้แก่รุ่น 67 กก. และ 70 กก.[2] โดยมีนักมวยไทยอย่าง บัวขาว ป.ประมุข และ เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้[14] ซึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง เป็นฝ่ายชนะน็อค อเลสซิโอ แองเจลโล่ ซึ่งเป็นนักมวยไทยชาวอิตาลีในยกแรก[15] ส่วน บัวขาว ป.ประมุข ได้เป็นฝ่ายชนะคะแนน อับดาห์ลาห์ มาเบล นักมวยไทยชาวแคเมอรูน โดยเป็นคู่เอกของการแข่งขันในรอบ 8 คน[16] ภายหลังจากการแข่งรอบดังกล่าวเสร็จสิ้นลง ได้มีการเตรียมจัดการแข่งขันรอบถัดไปในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และรอบชิงชนะเลิศซึ่งเตรียมจัดขึ้นในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า[16][17] แต่เนื่องด้วยเหตุการณ์อุทกภัยในประเทศไทย พ.ศ. 2554 ที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลให้เลื่อนการจัดรายการแข่งขันรอบดังกล่าวออกไป โดยมาจัดรอบเซมิไฟนอลในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ที่ห้างอิมพีเรียลสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ[18] และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
 
การแข่งขัน
เป็นการแข่งขันมวยไทยที่ลดจำนวนยก จาก 5 ยก ลงมาเหลือ 3 ยก ยกละ 3 นาที ในการต่อสู้แบบมวยไทย ซึ่งนอกจากนี้ ยังมีการกำหนดให้นักมวยไทยสวมกางเกงและนวม โดยเปลี่ยนจากฝ่ายแดงและฝ่ายน้ำเงิน มาเป็นฝ่ายสีดำและฝ่ายสีขาวส่วนเพิ่มเติม

ในช่วงพิธีเปิดมีการแสดงรำมวยไทยโบราณ, การเล่นดนตรีไทย ตลอดจนการแข่งขันที่สร้างความตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ชมเป็นอย่างมาก

No comments :

Post a Comment